รีวิว Nikkor 8-15 mm เลนส์ Fisheye รุ่นล่าสุดของ Nikon

เลนส์ตาปลาหรือเลนส์ Fish eye นั้นเป็นหนึ่งในเลนส์ในฝันของใครหลายๆ คนนะครับ เพราะถ่ายได้ภาพ 180 องศาตรงหน้าในมุมมองภาพที่แปลกตาสุดๆ แต่ด้วยความที่ลักษณะการใช้งานค่อนข้างเฉพาะ ไม่เหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ และเลนส์มีราคาสูง ทำให้เราไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้เลนส์แบบนี้กัน วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ Nikon ประเทศไทยส่งเลนส์ Nikon AF-S Fisheye Nikkor 8-15mm F3.5-4.5E ED มาให้ทีมงานเว็บแบไต๋ได้ทดลอง ทำความรู้จักกับเลนส์ตาปลากัน

Nikon AF-S 8-15 mm fisheye เหมือนได้ 2 เลนส์ในตัวเดียว

ความดีงามอย่างแรกของเลนส์รุ่นนี้คือช่วงซูมที่ได้ระยะ 8 – 15 mm ครับ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าแค่ซูม แต่พอจะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่แค่นั้น การที่เลนส์ตัวนี้สามารถซูมได้ทำให้เราสามารถถ่ายภาพมุมกว้างใน 2 รูปแบบคือ Circular Fisheye (ภาพวงกลมมุมกว้าง ขอบดำ เห็น 180 องศา) และ Diagonal Fisheye (ภาพมุมกว้าง เต็มเฟรม เห็น 180 องศา) ครับ

ที่มา.http://hitech.sanook.com/1432829/

ผู้บริหารชี้ iPad Pro คือหลักฐานยืนยันว่า Apple กำลังเดินตามรอย Microsoft

Ryan Gavin ผู้จัดการทั่วไปแผนกดูแลผลิตภัณฑ์ Surface ได้เปิดเผยกับ Business Insider ระบุว่าการเปิดตัว iPad Pro ของ Apple คือความเคลื่อนไหวที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แนวทางของของ Microsoft นั้นกลายเป็นกรณีศึกษาครั้งสำคัญที่ทำให้แบรนด์คู่แข่งในตลาดต้องเดินรอยตามแนวคิดเรื่องการผสมผสานของแท็บเล็ตและแล็ปท็อปแบบ 2 in 1 หรือแท็ปเล็ตไฮบริดจ์แบบที่เรียกกันในปัจจุบันทั้งนี้ Apple ได้เปิดตัว iPad Pro หน้าจอ 12.9 นิ้วเป็นครั้งแรกในช่วงพฤศจิกายน 2015 เป็นเวลา 3 ปีให้หลังจากที่ Microsoft เปิดตัวแท็บเล็ต Surface ตัวแรก หน้าจอขนาด 10.6 นิ้วพร้อมคีย์บอร์ดถอดได้ โดยมีการหยิบยกคำพูดของ Tim Cook ซีอีโอ Apple ในช่วงปี 2012 ที่ยืนยันแนวคิดว่าไม่ต้องการรวม Macbook Air กับ iPad เข้าด้วยกัน ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็เปิดตัว iPad Pro โดยหยิบยกถึงคุณสมบัติที่จะมาเป็นตัวแทนของเดสก์ท็อปพีซีและโน๊ตบุ๊คในอนาคตแทน

ที่มา.https://www.beartai.com/news/itnews/175289

สิทธิบัตรใหม่บอกใบ้ iPhone 9 อาจรองรับใช้งาน Apple Pencil ได้ด้วย

มีรายงานจากเว็บไซต์ Patently Apple เปิดเผยถึงสิทธิบัตรฉบับใหม่ที่ระบุถึงหัวข้อการขยายขอบเขตการใช้งาน Apple Pencil ที่นอกเหนือจากใช้งานบนแท็บเล็ต iPad Pro แล้วยังจะสามารถใช้งานใน iPhone ได้ด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวรายงานออกมาหลังจากที่ Samsung ได้เปิดตัว Galaxy Note 8 เพียงวันเดียว โดยน่าสนใจมากว่า Apple นั้นเล็งเห็นศักยภาพจากตัวปากกาสไตลัส Apple Pencil ในการต่อกรกับ S Pen ของตระกูล Note ในอนาคตได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ในยุคของ Steve Jobs นั้นได้ออกแบบ iPhone มาเพื่อสะดวกใช้งานกับนิ้วมือของมนุษย์ มากกว่าจะต่อยอดความคิดเรื่องปากกาสไตลัสก็ตาม

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว Tim Cook เองก็เคยให้สัมภาษณ์เป็นนัยว่า Apple ได้เริ่มทำการทดสอบ Apple Pencil ใน iPhone แล้ว โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม นอกจากนี้ iOS 11 ที่ใกล้จะเปิดตัวออกมานั้นก็มีรายงานว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับตัว Pencil ได้ใช้งานครบเครื่องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานกับอีเมล์, แคปหน้าจอ, เข้าเว็บไซต์จากหน้าแรก เป็นต้น

ที่มา.https://www.beartai.com/news/itnews/189685

Samsung Galaxy Note 8 เปิดตัวเวอร์ชันสีชมพูหวานมุ้งมิ้งที่ไต้หวัน

ตามปกติแล้วการตลาดของ Samsung นั้นมักจะโผล่เซอร์ไพรส์เพิ่มสีใหม่กับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงแล้ววางจำหน่ายเจาะในบางกลุ่มประเทศเสมอ ซึ่งไต้หวันนั้นถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ Samsung ไปลุยทำตลาด จากก่อนหน้านี้ Galaxy S8+ สีชมพูก็เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี ล่าสุด Galaxy Note 8 เองก็มีเวอร์ชันสีชมพู Star Pink วางจำหน่ายในไต้หวันแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ Star Pink ถือเป็นสีที่ 5 ของ Galaxy Note 8 ที่วางจำหน่ายต่อจาก Midnight Black, Maple Gold, Orchid Gray และ Deep Sea Blue โดยทาง Samsung นั้นระบุว่าการออกสีชมพูเจาะตลาดไต้หวันเนื่องจากผู้ใช้ที่นี่นิยมสีดังกล่าวมาก ซึ่งจากรายงานนั้นระบุว่าสมาร์ทโฟนทั่วประเทศที่ถูกจัดจำหน่ายไปนั้นเป็นสีชมพูถึง 30% เลยทีเดียว

ที่มา.https://www.beartai.com/news/itnews/189982

เดินหน้าแล้ว กรมการขนส่งทางบก ลงนาม MOU กับ AIS พัฒนาระบบบริหารจัดการเดินรถ GPS

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 กรมการขนส่งทางบกโดย นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ AIS นำโดย นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนการบริการเครือข่ายสัญญาณพร้อมพัฒนาระบบสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อตอบสนองนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลสนับสนุนการดำเนินโครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศ

ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล กลายเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับและเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง AIS ในฐานะผู้ให้บริการ Digital Infrastructure มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจไทยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวคิด Digital for Thais เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ The Next Generation Thailandซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรมการขนส่งทางบก ในครั้งนี้ เอไอเอสมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากกรมการขนส่งทางบกร่วมลงนามความร่วมมือนำเครือข่ายดิจิทัล ทั้ง 3G, 4Gและ 4.5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มาเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการทำงานของระบบติดตามรถผ่านระบบ GPS ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการของกรมการขนส่งทางบกได้แบบเรียลไทม์

ด้วยศักยภาพเครือข่ายไร้สายของ AIS จึงเหมาะสมต่อการใช้งาน GPS Tracking เนื่องจากมีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงมั่นใจได้ว่า ผู้ใช้บริการจะสามารถใช้งานระบบติดตามยานพาหนะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงในทุกพื้นที่ของประเทศไทย อันเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการการขนส่งให้กับผู้ประกอบการ”

ที่มา.https://www.it24hrs.com/2017/dlt-ais-mou-gps-tracking-car-logistics/

Facebook เวอร์ชั่นมือถือ เปลี่ยน icon ใหม่พร้อมปรับให้อ่านได้สบายตามากขึ้น

Facebook เวอร์ชั่นมือถือ เปลี่ยน icon ใหม่พร้อมปรับให้อ่านได้สบายตามากขึ้น

สำหรับคนที่ชอบ icon เหลี่ยมบน Facebook อาจจะต้องผิดหวังกับข่าวนี้ เพราะว่า Facebook เผยหน้าตาของ Interface (หน้าใช้งานและอ่านข้อมูล) ให้ดูมนมากขึ้น แต่ดูไปดูมาก็น่ารักและสื่อสารได้ง่ายกว่าเดิม

ที่มา.http://hitech.sanook.com/1431969/

วิธีซ่อนการกด like และ following ไม่ให้คนอื่นเห็นบน facebook

ช่วงนี้การกด Like ของหนุ่มๆอาจอยู่ในสายตาเพื่อนหญิงหรือสาวๆไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ติดตามเพจ Sexy ต่างๆ หรือติดตามศิลปินหญิงที่ตอนนี้มีเยอะมากจนหนุ่มๆกด like จนกระทั่งเพื่อนหญิงที่ตามเราก็อาจเห็นสิงที่เรากด Like ตามก็ได้ หรือแม้กระทั่งการ Like เพจแฟนคลับ การขอ Add ละก็ กลายเป็นที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์ทันที ดังนั้นเรามีเคล็ดวิธีการซ่อนการกด Like facebook Page และ Following ไม่ให้รู้ว่าเราติดตามเพจไหนอยู่

เริ่มจากเข้าเว็บไซต์ facebook.com ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ แล้ว Login ตามปกติ จากนั้นเข้าไปที่หน้า Facebook Profile ของตัวเอง แล้วคลิก More เลือก Manage Sections

จากนั้นเลื่อนมาด้านล่าง หารายการติ๊กถูกที่ Likes ดังรูป หากไม่มีเครื่องหมายถูกให้ติ๊กถูกหน้า Likes ปรากฎอยู่ แล้วคลิก Save เพื่อบันทึก

จากนั้นคลิกที่แท็บ More อีกครั้ง แล้วเลือก Likes

ก็จะเจอเพจต่างๆที่คุณเคย Likes ติดตาม คราวนี้ให้คลิกที่ไอคอนดินสอบริเวณหัวมุมขวาบนของ Likes ดังรูป แล้วเลือกที่ Edit the Privacy of Your Likes

ก็จะเห็นหมวดประเภทของเพจต่างๆที่เปิดแบบ Public อยู่ แนะนำหากคุณต้องการซ่อนการกด like ไม่ให้คนอื่นเห็น ให้คลิกที่ลูกโลก (Public) เปลี่ยนเป็น แม่กุญแจ ( Only Me ) ทั้งหมดทุกหมวดในหน้า Privacy of Likes เพื่อซ่อนทุกเพจที่เรา Likes ใน facebook ทั้งหมด ทั้งนี้จะรู้เฉพาะเราเจ้าของบัญชี facebook เพียงคนเดียว

จากนั้นคลิกที่ดินสอ แล้วเลือกที่ Edit the Privacy of your Follows

จากนั้นตั้งค่าความเป็นส่วนตัวตามความต้องการของเจ้าของบัญชี แต่ที่แนะนำสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว…จัด ! ต้องเลือกที่ Only Me ทั้ง 2 ในส่วน Friend List และ Following ดังรูป แล้วคลิกที่ Done

เพียงเท่านี้เพจต่างๆก็ไม่แสดงให้เพื่อนๆหรือคนอื่นว่าเราแอบ Likes หรือ Follow ตามใครอยู่แล้ว ดังนั้นการตั้งค่า่ความเป็นส่วนตัวบน facebook ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้นะ

ที่มา.https://www.it24hrs.com/2017/privacy-hide-like-following-facebook-pages/

สาวกสู้ไหวมั้ย iPhone 8 อาจมีราคาที่สูงถึง 37,000 บาท!

Horace Dediu นักวิเคราะห์จาก Asymco ได้เผยแพร่ข้อมูลการวิเคราะห์ราคาของ iPhone 8 ออกมาในรูปแบบโมเดลขั้นบันได โดยการย้อนดูราคาของ iPhone ตั้งแต่รุ่นเก่าทั้งหมดเลยครับ

แผนภาพจะพบว่า ราคาของ iPhone จะสูงขึ้นทุก 3 ปี ปีละ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ ในราคาช่วงแรกจะอยู่ที่ $400 จนตอนนี้ iPhone 7 Plus ความจุ 256GB ราคาอยู่ที่ $950 ครับ

 

เผยข้อมูล HomePod มีหน้าจอและแรมขนาด 1GB

เผยข้อมูลใหม่ล่าสุดจากเฟิร์มแวร์ของ HomePod ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข้อมูลของ iPhone 8 หลุดออกจากเฟิร์มแวร์ดังกล่าว ล่าสุดก็มาดูของ HomePod กันบ้าง

นักพัฒนา Avery Magnotti เผยข้อมูลจากเฟิร์มแวร์ว่า HomePod has a “screen” of 272×340 and 1GB RAM หรือ HomePod จะมีหน้าจอความละเอียด 273 x 340 พิกเซล และแรม 1GBอย่างที่คาดไว้ว่า ตรงกลางของ HomePod ถูกเว้นที่เอาไว้เพื่อทำอะไรสักอย่าง ก็คาดว่าจะเอาไว้สำหรับส่วนแสดงผลหน้าจอ แต่จะเป็นแบบสัมผัสหรือไม่ก็ต้องรอดูความคืบหน้าเพิ่มเติมครับ
ที่มา.https://www.beartai.com/news/itnews/184427

ปิดเว็บไซต์ไม่เหมาสมแล้ว 219 เว็บไม่เหมาะสม

ปลัดไอซีที เผย ปิดเว็บไซต์เนื้อหาไม่เหมาะสมแล้ว 219 เว็บ ประสาน ปิดเฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายเป็นรายบัญชี พร้อมตั้ง กก.กำกับดูแลออนไลน์
ทั้งนี้ ได้ตั้ง 3 คณะทำงานเพื่อกำกับดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ ในระดับที่เข้มข้นมากขึ้นประกอบด้วย
1.คณะทำงานด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล มีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์
2.คณะทำงานด้านด้านสืบสวนสอบสวนและปรามปราม มีอำนาจสอบสวน สืบสวน และจับกุม ผู้ที่กระทำผิดนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมาย 
3.คณะทำงานอำนวยการ
นอกจากคณะทำงานแล้ว ไอซีที ได้เร่งหารือแนวทางการจัดทำ เนชั่นแนล อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ (National internet gateway) หรือ ช่องทางสำหรับเชื่อมต่อข่ายงานคอมพิวเตอร์ที่ต่างชนิดกันให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบและปิดกั้นเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายทำได้ดีขึ้น โดยจะให้บริษัท กสท โทรคมนาคม เป็นตัวหลักในการดำเนินงาน ร่วมกับ บริษัท ทีโอที และจะเรียกผู้ให้บริการที่มีเกตเวย์จากต่างประเทศเข้าร่วมหารือ ซึ่งอาจเห็นเป็นรูปธรรมภายใน 1-2 เดือน
ที่มา.http://news.sanook.com/1600753/

พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

1. การฝากร้านใน Facebook, IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท

2. ส่ง SMS โฆษณา โดยไม่รับความยินยอม ให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้ ไม่เช่นนั้นถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท

3. ส่ง Email ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท

4. กด Like ได้ไม่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ยกเว้นการกดไลค์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน เสี่ยงเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 หรือมีความผิดร่วม

5. กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่แชร์มีผลกระทบต่อผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่ 3

6. พบข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของคอมพิวเตอร์กระทำเอง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น ความเห็นในเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงเฟซบุ๊ก ที่ให้แสดงความคิดเห็น หากพบว่าการแสดงความเห็นผิดกฎหมาย เมื่อแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อลบได้ทันที เจ้าของระบบเว็บไซต์จะไม่มีความผิด

7.สำหรับ แอดมินเพจ ที่เปิดให้มีการแสดงความเห็น เมื่อพบข้อความที่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เมื่อลบออกจากพื้นที่ที่ตนดูแลแล้ว จะถือเป็นผู้พ้นผิด

8. ไม่โพสต์สิ่งลามกอนาจาร ที่ทำให้เกิดการเผยแพร่สู่ประชาชนได้

9. การโพสเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน ต้องปิดบังใบหน้า ยกเว้นเมื่อเป็นการเชิดชู ชื่นชม อย่างให้เกียรติ

10. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียเชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ญาติสามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย

11. การโพสต์ด่าว่าผู้อื่น มีกฏหมายอาญาอยู่แล้ว ไม่มีข้อมูลจริง หรือถูกตัดต่อ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผิดผู้โพสต์ได้ และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท

12. ไม่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใด ไม่ว่าข้อความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ

13. ส่งรูปภาพแชร์ของผู้อื่น เช่น สวัสดี อวยพร ไม่ผิด ถ้าไม่เอาภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หารายได้

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ดังนั้นจึงควรรู้กฎกติกาการใช้งานไว้ก่อน ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เราเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายได้สามารถคลิกดาวน์โหลดและอ่านฉบับเต็มได้ ที่นี่

ที่มา https://www.marketingoops.com/news/viral-update/computer-law/